ธุรกิจในฝัน

ตอนที่ 1 ฝันให้ใหญ่เข้าไว้

อินเทอร์เน็ต: ที่ซึ่ง ดอต.คอมนำฝันให้กลายเป็นจริง! "อินเทอร์เน็ตจะย่อโลกให้เล็กลง เปลี่ยนแปลงโชคลาภของผู้คน ของบริษัทต่างๆ และของ

ประเทศทั้งหลาย"

-จอห์น เชมเบอส์ม ซีอีโอ ซิสโกซิสเต็มส์ อินเทอร์เน็ตถูกสร้างขึ้นเพื่อนักฝัน "นักฝันแห่งดอต.คอมตามที่ผมตั้งชื่อให้ เจฟฟ์ เบโซส เป็นนักฝัน

แห่งดอต.คอมรุ่นแรกๆ ในประวัติศาสตร์อันแสนสั้นของอินเทอร์เน็ต และเป็นนักฝันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง เขาเริ่มเข้ามาในวง

การอินเทอร์เน็ตในปี ค.ศ. 1994 ภายหลังเพียง 2 ปี ประธานาธิบดี จอร์ช บุช ได้ลงนามในกฎหมายอนุญาตให้เอกชนทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตได้

ภายในค.ศ. 1977 หรือ 3 ปีให้หลังที่เขาตั้งบริษัทอินเทอร์เน็ต เจฟฟ์ เบโซส ก็กลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน และต่อไปนี้คือเรื่องราวอันเหลือเชื่อ

ของเขาครับ

-เจฟฟ์ เบโซส นั้นเฉลียวฉลาดมาก เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยพรินซตัน โดยได้รับปริญญาเกียรตินิยมคู่ในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและ

วิทยาการคอมพิวเตอร์ หลังจากเรียนจบได้ 2 ปี เขาได้เข้าทำงานในบริษัท แบงเคอร์สทรัสต์ ที่วอลล์สตรีททำหน้าที่พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อ

ใช้ควบคุมดูแลงานของบริษัทที่มีทรัพย์สินมากถึง 250 พันล้านเหรียญ อีก 2 ปีต่อมาเบโซส ซึ่งมีอายุเพียง 26 ปี ได้กลายเป็นรองประธานกรรม

การบริษัทนั้นที่มีอายุน้อยที่สุด และเมื่ออายุได้ 30 ปีเขาก็เป็นมหาเศรษฐี ดูๆ ไปแล้ว เบโซส กำลังจะได้เป็นซีอีโอคนหนึ่งในธุรกิจที่เจริญรุดหน้า

อย่างรวดเร็วของวอลล์สตรีท แต่เขากลับฝันที่จะมีธุรกิจเป็นของตนเอง เป็นนายตัวเอง และเป็นผู้ตัดสินใจทุกอย่างเอง เขาเข้าใจดีว่าเขาจะไม่

สามารถเป็นเช่นนั้นได้ตราบใดที่เขายังคงทำงานให้คนอื่นๆ อยู่ ไม่ว่าเขาจะมีตำแหน่งอะไรก็ตาม

เบโซส เฝ้ารอโอกาสเพื่อทำธุรกิจดังฝัน แลัววันหนึ่งในต้น ค.ศ. 1944 เขาได้เห็นตัวเลขที่จะพลิกผันชีวิตทั้งชีวิตของเขา "อินเทอร์เน็ตกำลัง

ขยายตัวที่อัตรา 2,300% ต่อปี"

"ถ้าไม่นับจานเพาะเชื้อแล้ว ผมไม่เคยเห็นอะไรเติบโตเร็วเท่าอินเทอร์เน็ตมาก่อนเลย" เจฟฟ์กล่าว ขณะนั้นเขายังไม่แน่ใจว่าจะทำธุรกิจประเภท

ไหนดี รู้แต่เพียงว่าจะต้องเป็นธุรกิจที่มีการเชื่อมต่อทางคอมพิวเตอร์ และเขารู้ด้วยว่าจะต้องรีบทำ เบโซส ลองร่างสินค้า 20 รายการที่เขาคิดว่าจะ

ขายได้ทางคอมพิวเตอร์ โดยเรียงจากสินค้าที่เขาคิดว่าจะขายได้ง่ายที่สุดก่อน ปรากฎว่าหนังสือติดอันดับแรก ต่อมาเขาลาออกจากงานเพื่อวาง

แผนเปิดกิจการบนอินเทอร์เน็ต ขณะที่ภรรยาของเขาขับรถจากนิวยอร์คไปฝั่งตะวันตก

เขาตกลงใจตั้งชื่อบริษัทออนไลน์ของเขาว่า อเมซอน.คอม ขณะที่ผมเขียนหนังสือเล่มนี้อยู่ อเมซอน.คอม ดำเนินกิจการมาได้ 5 ปีแล้ว โดยมี

ส่วนแบ่งของตลาดหนังสือสูงถึง 25 พันล้านเหรียญ และกลายเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดบริษัทหนึ่งในทวีอเมริกาเหนือ เมื่อ อี-

คอมเมิร์ซ (พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) เติบโต

ธุรกิจของ เบโซส เป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมากรายแรกของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และมีส่วนดึงดูดความสนใจของคนทั้งโลกให้

พุ่งไปที่ศักยภาพมหาศาลของธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต แม้ว่าจะมีเสียงวิพากย์วิจารณ์กันมากกว่า อเมซอน.คอม จะทำกำไรได้เมื่อไหร่ หรือจะมีกำไร

สักเท่าใดก็ตามแต่บริษัทนี้ได้แผ้วถางทางให้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) เติบโตถึงขั้นปฏิวัติการสร้างความมั่งคั่งเลยทีเดียว

เพื่อให้เข้าใจความสามารถขอพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) ในการสร้างความมั่งคั่งได้ดียิ่งขึ้น ผมจะขอเปรียบเทียบกับอุตสหกรรม

ยักษ์ใหญ่ที่คองธุรกิจของโลกมาเป็นเวลาอันยาวนาน นั่นก็คือ อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ การค้าปลีก และการผลิตซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์

ก่อนหน้าที่อินเทอร์เน็ตจะเกิดขึ้นเจ้าของกิจการต้องใช้เวลานานนับทศวรรษในการสร้างรายได้ให้ถึงพันล้านเหรียญ

เฮนรี่ ฟอร์ด ใช้เวลา 23 ปี ในการสร้างรายได้พันล้านเหรียญแรก

แซม วอลทัน ใช้เวลา 20 ปี

และ บิล เกตส์ ใช้เวลา 12 ปี

แต่ เจฟฟ์ เบโซส ใช้เวลาเพียง 3 ปีในการสร้างรายได้พันล้านเหรียญบนอินเทอร์เน็ต นิตยสารฟอร์จูนรายงานว่า เบโซส มีทรัพย์สิน

มูลค่าถึง 9 พันล้านเหรียญใน ค.ศ. 1999 ภายในเวลา 5 ปี หลังการก่อตั้ง อเมซอน.คอม

โชคลาภบนอินเทอร์เน็ตสร้างรายได้ภายในเวลาเป็นเดือนหรือเป็นปีแทนที่จะเป็นทศวรรษเหมือนเมื่อก่อน และสิ่งที่ต้องสังวรณ์ไว้ก็คือความจริง

ที่ว่า อินเทอร์เน็ตยังอยู่ในวัยกระเตาะเท่านั้นในช่วงเลา 11 ปีที่ผ่านมารอินเทอร์เน็ตมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าทุกๆ ปี ตามที่ วินต์ เซิร์ฟ ประธาน

สมาคมอินเทอร์เน็ตได้กล่าวไว้ เขาพยากรณ์ว่าภายในปี 2000 จะมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากถึง 300 ล้านคน ว้าว! หรือดังที่ อัล จอลซัน พูดไว้ว่า

"ท่านทั้งหลายครับ ท่านยังไม่ทันจะเห็นสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นจริงๆ เลย!"

สถาบันที่น่าเชื่อถือหลายสถาบันต่างพากันพยากรณ์ว่า อินเทอร์เน็ตและ อี-คอมเมิร์ซ จะเติบโตอย่างเหลือเชื่อภายในระยเวลาไม่กี่ปีข้างหน้า

แม้ว่าตัวเลขการขยายตัวของอินเทอร์เน็ตอาจจะต่างกันมาก แต่นักพยากรณ์ทั้งหลายเห็นพ้องต้องกันว่า อี-คอมเมิร์ซ จะเติบโตอย่างรวดเร็ดใน

คริสต์ศตวรรษที่ 21 แน่นอน

เราลองมาดูกราฟข้างล่างกันสักนิดนะครับ เพื่อให้เห็นการขยายตัวของอินเทอร์เน็ตในระยะสั้น และจำนวนผู้ซื้อบนอินเทอร์เน็ต ตัวเลขในกราฟ

มาจากการพยากรณ์ของบรรษัทข้อมูลนานาชาติ (International Data Corporation)

รูปกราฟที่ 1

รูปกราฟที่ 2

คุณเพียงแต่มองกราฟทั้ง 2 ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า ตัวเลขประมาณการขยายตัวของ อี-คอมเมิร์ซ นั้น ช่างเหลือเชื่อจริงๆ ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

รายได้จาก อี-คอมเมิร์ซ จะเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าตัว และจำนวนผู้ซื้อออนไลน์จะมีมากกว่า 100 ล้านคนโลกเราไม่เคยเห็นการขยายตัวรวดเร็วเช่นนี้

มาก่อนเลยการเติบโตอย่างรวดเร็วของ อี-คอมเมิร์ซ ไม่ใช่เพียงแค่แนวโน้มธรรมดาๆ หากแต่เป็นการพลิกผันวัฎจักการซื้อ-ขายอย่างมโหฬารรอบ

โลก การประมาณการดังกล่าวส่อให้เห็นว่า จะมีคนจำนวนมากที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลภายในทศวรรษนี้ ท่านผู้อ่านครับเรากำลังจะได้เห็นการ

ขยายตัวของ อี-คอมเมิร์ซ จากจุดที่เริ่มเติบโต และจะมีเพียงไม่กี่คนที่ตื่นตัวพอที่จะรีบฉกฉวยโอกาสอันเหลือเชื่อนี้เพื่อสร้างรายได้เป็นพันๆ ล้าน

เหรียญในไม่กี่ปีข้างหน้า

เจฟฟ์ เบโซส มองเห็นแนวโน้มนี้ใน ค.ศ. 1994 และไม่รีรอที่จะฉวยโอกาส เขาเข้าใจความสำคัญของกาลเทศะ ได้อยู่ในที่ที่เหมาะสม ในเวลา

ที่เหมาะเจาะ และได้กระโจนเข้าไปสุดตัว อีก 3 ปีต่อมาเขาก็กลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน ทั้งๆ ที่คลื่นการขยายตัวลูกโตยังมาไม่ถึงเสียด้วยซ้ำ

เหลือเชื่อจริงๆ ผมรู้สึกดีใจกับ เจฟฟ์ เบโซส มากครับ... แต่ ตัวผมเองล่ะ ?

เจฟฟ์ เบโซส เป็นตัวอย่างอันดีของการฝันที่จะมีธุรกิจดอต.คอมในฝัน ความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อใน อี-คอมเมิร์ซ ของเขา กลายเป็นบทเรียน

อันล้ำค่าเกี่ยวกับอนาคตของอินเตอร์เน็ตหนทางแห่งการสร้างความมั่งคั่งล้นเหลือที่สุดแสนมหัศจรรย์ในประวัติศาสตร์โลก !

จะว่าไปแล้วผมเองก็ดีใจกับ เบโซส และอัจฉริยะทางคอมพิวเตอร์คนอื่นๆ ที่กำลังทำเงินมหาศาลทางอินเทอร์เน็ตนะครับ และเขาเหล่า

นั้นก็ได้มีอำนาจมากขึ้นด้วย แต่พวกเราที่เหลือล่ะครับ ? คนธรรมดาๆ อย่างเราๆ ท่านๆ พอจะมีทางสร้างกำไรจากการขยายตัวของอินเทอร์เน็ต

บ้างไหมครับ ?

เมื่อไม่นานมานี้คำตอบต่อคำถามข้างต้นคือ "ไม่มี" ผู้ที่สามารถทำเงินบนอินเทอร์เน็ตได้ก็จะมีแต่ผู้ฉลาดปราดเปรื่องที่ได้สร้างเว็บเบราเซอร์

อย่างผู้ก่อตั้งยาฮู ! หรือเน็ตสเคป หรือ คนที่มีเงินมหาศาล เช่น บิล เกตส์ ที่ลงทุนในบริษัทออนไลน์ต่างๆ

สำหรับพวกเราที่เหลือก็ต้องเผชิญกับความจริงที่ว่า พวกเราส่วนใหญ่ทำไม่เป็นแม้แต่จะตั้งโปรแกรมเครื่องวีดีทัศน์ ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงการก่อ

ตั้งร้านหนังสือออนไลน์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นส่วน การลงทุนในหุ้นของอินเทอร์เน็ตก็ไม่อาจทำได้ เพราะเรามีรายได้น้อยจนแทบชักหน้าไม่ถึงหลังไม่เว้น

แต่ละเดือนอยู่แล้ว เหมือนอย่างที่ตัวตลกเคยตั้งข้อสังเกตสำหรับคนส่วนใหญ่ไว้ว่า "มันช่างมีเดือนมากเสียจริงเมื่อเราเงินหมด" คนที่โชคดีพอที่จะ

มีเงินพิเศษสัก 1-2 พันเหรียญ ควรจะฉลาดพอที่จะใช้เงินนั้นไปผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิต แทนที่จะเอาไปลงทุนในบริษัทอินเทอร์เน็ตที่ยังไม่มีผล

ประกอบการที่เชื่อถือได้

นั่นแปลว่าพวกเราส่วนใหญ่กำลังจ่ายเงิน แทนที่จะเป็นผู้รับเงินจากการใช้อินเทอร์เน็ต และเป็นเรื่องแน่นอนว่า คนส่วนใหญ่จมอยู่กับการสร้างฝัน

ของผู้อื่นมากกว่าการสร้างฝันของตัวเอง ฤามวลชนจะมีชะตาชีวิตที่ลิขิตให้ได้แต่เพียงเฝ้าดูเหมือนๆ กับที่เกิดขึ้นแล้วในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ที่ผ่านมาทุกครั้ง หรือว่าปรากฎการณ์แห่งอินเทอร์เน็ตจะแตกต่างออกไปจากเดิม ? มีทางใดบ้างไหมที่ปุถุชนเช่นเราจะสามารถสร้างกำไรก้อนโต

จากอินเตอร์เน็ตได้ ?

เอาล่ะครับ ผมยินดีที่จะประกาศว่ามันมีทางจริงๆ ที่คนธรรมดาๆ จะสร้างกำไรมหาศาลได้จากการขยายตัวของ อี-คอมเมิร์ซ มีหนทางสำหรับ

ปุถุชนที่จะเริ่มธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถกระจายสินค้าและบริการที่มีมูลค่านับพันหรือนับล้านเหรียญต่อปีได้

นั่นก็คือธุรกิจในฝันจะนำพลังอำนาจล้นเหลือของอินเทอร์เน็ตไปใช้ได้ ซึ่งหมายความว่าจะต้องเป็นธุรกิจที่สร้างขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และกว้าง

ขวาง เช่นเดียวกับวิสาหกิจบนอินเทอร์เน็ตที่ประสบความสำเร็จมาแล้วนั่นเอง

นี่คือแนวคิดมหัศจรรย์ที่ผมเรียกว่า "ธุรกิจในฝัน.คอม" นั่นเองครับ

แนวคิดธุรกิจในฝัน.คอมนี้ไม่เพียงแต่จะมีไว้สำหรับปุถุชนเท่านั้น แต่แนวคิดนี้ยังมีข้อได้เปรียบเหนือธุรกิจอื่นๆ ที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ตอีกด้วย

แท้ที่จริงแล้วธุรกิจในฝัน.คอมของคุณนี้อาจจะเป็นการปฏิวัติพอๆ กับอินเทอร์เน็ตเองเลยทีเดียว

ดังนั้น เราควรเริ่มต้นด้วยการพูดถึงคำแรกของธุรกิจในฝันออนไลน์ของคุณได้แล้วละครับ คำ ๆ นี้เป็นคำที่สามารถส่งเสริมสนับสนุนให้คุณได้

เข้าไปยืนอยู่แถวเดียวกับนักฝันดอตคอมทั้งหลาย คำ ๆ นี้ก็คือ "ฝัน" Dream และเราจะเริ่มพูดกันที่ความฝันของคุณครับ...

ขอขอบคุณข้อมูลจากอัพไลน์